หลังวิกฤตเศรษฐกิจ พ.ศ. 2540 เป็นต้นมา องค์กรธุรกิจที่ประสบปัญหาช่วงวิกฤตเศรษฐกิจได้นำหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงไปประยุกต์ใช้เพื่อพัฒนาองค์กรให้สามารถดำรงตนจนผ่านพ้นวิกฤตมาได้ ขณะเดียวกัน สังคมโลกก็มีการเปลี่ยนผ่านจากสังคมเศรษฐกิจสู่สังคมอุตสาหกรรม ทำให้เกิดผลกระทบเชิงโครงสร้างในด้านลบต่างๆ มากมาย เนื่องจากมุ่งเน้นเรื่องของการเติบโตของเศรษฐกิจ เดิมที่ประเทศไทยเป็นสังคมแบบเกษตรดั้งเดิม อยู่กันง่ายๆ ในลักษณะพึ่งพาอาศัยกัน แต่หลังจากมีกระแสโลกาภิวัตน์ไปสู่สังคมอุตสาหกรรม ทุกประเทศก็อยากไปสู่สังคมอุตสาหกรรมเพราะเห็นว่าการกินดีอยู่ดีน่าจะดีขึ้น ประเทศไทยก็เปลี่ยนจากยุค 0.1 ซึ่งเป็นสังคมเกษตรดั้งเดิม มาสู่ยุค 2.0 เริ่มเน้นเรื่องอุตสาหกรรมเบา โดยพัฒนาจากสิ่งที่มีอยู่ เช่น แรงงานที่มีราคาถูก ทรัพยากรธรรมชาติต่างๆ มากมาย หลังจากนั้นเริ่มมีการลงทุนจากต่างประเทศเปิดรับเทคโนโลยีจากต่างประเทศเข้ามาให้มากขึ้น จนเข้ายุค 3.0 แต่ในที่สุดแล้วกลับมีปัญหาเกิดขึ้นในมิติอื่นๆ โดยเฉพาะ อย่างยิ่งในมิติของสังคม สิ่งแวดล้อม คุณภาพชีวิต และศักดิ์ศรีของความเป็นมนุษย์ได้สูญหายไปไม่น้อย "ดร.สุวิทย์ เมษินทรีย์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวง วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี" ปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงและการพัฒนาที่ยั่งยืน : กระบวนทัศน์การพัฒนาสู้ประเทศไทย 4.0 ตร.สุวิทย์ เมษินทรีย์ รัฐมนตรีที่ว่าการกระทรวงวิทยาศาสตร์ละเทคโนโลยี ได้แสดงปาฐกถาพิเศษ เรื่อง ‘ปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงและพัฒนาที่ยังยืน : กระบวนทัศน์การพัฒนาสู่ประเทศไทร 4.0’ เมื่อวันพฤหัสบดีที่ 15 มิถุนายน พ.ศ. 2560 สรุปความว่า ประเทศไทยในช่วงการเติบโตด้านอุตสาหกรรม(ประเทศไทยยุค 3.0) ดูเหมือนทันสมัยแต่กลับไม่พัฒนาเพราะ
เรารวยนานกว่านี้หรือรวยยาวๆ ไม่ได้เพราะไม่มีความยั่งยืน การพัฒนาที่ผ่านมาประเทศไทยติดกับดักความไม่สมดุล คือ มุ่งที่เรื่องของความมั่นคงของเศรษฐกิจเป็นสำคัญซึ่งแลกมาด้วยผลเสียมากต่อเรื่องของความอยู่ดีมีสุขทางสังคม ทางรักษาสิ่งแวดล้อม เรื่องของศักดิ์ศรีละภูมิปัญญามนุษย์ และเรื่องอื่นๆ คือกินก่อนจ่ายที่หลัง ไปทุ่มในเรื่องของเศรษฐกิจ แต่เกิดผลกระทบเชิงลบที่ตามมามากมาย ประเทศไทย 4.0 หนทางสู่ความมั่นคง มั่งคั่ง และยั่งยืน บทเรียนของกับดักทั้ง 3 ข้อนี้ รัฐบาล คสช. ต้องการนำปะเทศไปสู่ความมุ่นคง มั่งคั่ง และยั่งยืน คำถามคือการถอดรหัสวิสัยทัศน์ของรัฐบาลชุดนี้ ว่าด้วยความมั่งคง มั่งคั่ง และยั่งยืน ต้องการถอดรหัสออกมาเป็นโมเดลที่นำไปสู่ความมั่นคง มั่งคั่ง และยั่งยืนอย่างแท้จริงจะทำอย่างไร ซึ่งเป็นประเด็นที่ท่าทายมาก ตอนแรกเราบอกว่าทำไมต้องมีประเทศไทย 4.0 ก็เพราะโลกเปลี่ยน ไทยต้องปรับและปรับอย่างไร ก็มาสู่โมเดลที่ตอบโจทย์สิ่งที่ทุกคนหรือรัฐบาลอยากจะไปคือ ความมั่นคง มั่งคั่ง และย่างยืน เพราะฉะนั้น ประเทศไทย 4.0 เป็นโมเดลที่นำไปสู่ความมั่นคง มั่งคั่ง และยั่งยืนอย่างแท้จริง หลังคิดของประเทศไทย 4.0 ตั้งอยู่บนหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง เพราะแต่เดิมมาเราไม่สมดุลเราถึงติดอยู่ในกับดัก คือเราเทใจในเรื่องของเศรษฐกิจแต่เราไม่มองในมิติของเรื่องสังคมสิ่งแวดล้อม และคุณค่าของความเป็นมนุษย์ด้วย เราพัฒนาประเทศโดยเน้นความเติบโตทางเศรษฐกิจอย่างเดียว ณ วันนี้เรากำลังมองว่าเป็นกระบวนการทัศน์พัฒนาที่ผิดพลาด กระบวนทัศน์การพัฒนาที่ถูกต้อง พอเพียงในส่วนที่ซ่อนเรื่องของการสร้างสังคมที่ยืนอยู่บนขาของตนเองในระดับหนึ่งและสังคมที่เกื้อกูลและแบ่งปันหรือภาษาอังกฤษเรียกว่า “Caring and Sharing Society” เพราะฉะนั้นบันไดสามขั้นของเศรษฐกิจพอเพียงนั้นเชื่อมต่อโดยไม่ต้องยืมจมูกของคนอื่นหายใจ 100% ต่ำพร้อมจะรวยกันเป็นกลุ่มอย่างมีพลัง Caring and Sharing Society ที่ช่อนอยู่ในปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงบ่งบอกอะไรบางอย่างถึงการเหลี่ยมล้ำเพราะเป็นเรื่องของการแบ่งบัน ปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง เราอาจจะถามว่าความพอเพียงคืออะไร หลายคนพูดถึงความพอเพียงในต่างระดับ บางคนเข้าใจว่าปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงเป็นเพียงแค่ตอบโจทย์เรื่องของเกษตรเรื่องของทฤษฎีใหม่ ซึ่งเป็นแค่ส่วนหนึ่ง ปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงเป็นปรัชญาสากลที่สามารถนำไปประยุกต์ใช้ทั้งในบริบทของตนเอง องค์กรหรือประเทศหรือทั้งในระบบของโลก ความพอเพียงนั้น “เมื่อไม่พอพอต้องรู้จักเติม เมื่อพอแล้วต้องรู้จักหยุด แต่เมื่อมีเกินต้องรู้จักปัน” ปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงจึงเป็นปรัชญาในเชิงพลวัดคือ เป็น Dynamic Concept ของการรู้จัดพอ รู้จักเติม รู้จัดปัน เมื่อเรายังไม่พอเราจะบอกว่าพอเพียงไม่ได้ ให้เมื่อไม่พอก็ต้องทำให้พอ เติมด้วยองค์ความรู้ เติมด้วยความขยัน นี่คือเรื่องของพระมหาชนก หลายคนมองว่าพอเพียงมีเท่าไหร่ก็เอาแค่นี้ไม่ใช่ เพียงแต่ว่าในบางเรื่องไม่พอต้องรู้จักเติม เมื่อพอต้องรู้จักหยุด เมื่อเกินต้องรู้จักปัน หลักคิดของปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง ถูกถอดรหัสออกมาและนำมาใช่อยู่ในประเทศไทย 4.0 ทั้งในระดับของปัจเจกและระดับของประเทศในระดับของประเทศ ประเทศไทย 4.0 นำแนวคิดของปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงมาเต็มที่ คือมองว่าบทเรียนของประเทศไทย 3.0 เราเน้นอยู่กับการพึ่งพาเศรษฐกิจโลก อัตราการส่งออกเทียบกับ GDP ถึง 70-80% เมื่อเศรษฐกิจโลกดีเราก็ Happy แต่ถ้าเศรษฐกิจโลกไม่ดีเราก็ Suffer ณ วันนี้เราอยู่ในภาวะที่โลกผันผวน เพราะฉะนั้นประเทศไทย 4.0 จึงน้อมนำแนวคิดปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงว่าด้วยการสร้างความเข้มแข็งจากภายใน แต่พร้อมกันนั้นเราไม่ต้องการที่จะปิดประเทศ ปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงนำมาใช้คือ สร้างภูมิคุ้มกัน สร้างความเข้มแข็งภายใน พร้อมกันนั้นก็เชื่อมโยนกับประชาคมโลกด้วย ในเวลาเดียวกัน เราจะไปอยู่กับโลกเราต้องเข้มแข็งก่อนถ้าเราอ่อนแอและเราไปอยู่กับโลกเราก็จะถูกเขาเอาเปรียบหรือถ้าโลกผันผวนเราก็จะเจ็บตัวแต่เมื่อไรก็ตามที่เรามีการสร้างความเข้มแข็งจากภายในที่เพียงพอและเราอาจจะฉลาดพอเมื่อโลกผันผวนเราก็อยู่ได้ด้วยตัวเองเราไม่จำเป็นต้องพึ่งพาโลกเพียงอย่างเดียวเพราะฉะนั้นภายใต้หลักคิดปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงนั้นจึงถูกน้อมนำมากลายเป็น 2 แก่นยุทธศาสตร์ของประเทศไทย 4. 0 ด้วยกันคือ 1) สร้างความเข้มแข็งจากภายใน นี่คือหลักคิดที่สำคัญของประเทศไทย 4. 0 ภายใต้การน้อมนำปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงถ้าพูดให้ชัดเจนขึ้นเรามีการสรุปบทเรียนบทเรียนที่สำคัญที่เราไปลอกแบบระบบทุนนิยมของต่างประเทศมาเราพยายามทำทุกอย่างที่โลกเขามีและทำตามโดยไม่คำนึงถึงบริบทภูมิสังคมของเราหรือการสร้างความเข้มแข็งที่เพียงพอนั้นนำมาสู่ 3 บทเรียนด้วยกัน ประเทศไทยยุค 3.0 ทำให้เราได้ประโยชน์มากมายเศรษฐกิจจะโตกว่านี้ไม่ได้แล้ว เพราะติดอยู่ในกับดัก 3 ข้อได้แก่ 1) เราสร้างความไม่สมดุลระหว่างมนุษย์กับธรรมชาติก็นำไปสู่ความไม่ยั่งยืน ทุนมนุษย์: หัวใจของการขับเคลื่อนสู่ประเทศไทย 4. 0 สิ่งที่จะตอบโจทย์ที่กล่าวมา ทั้งหมดอยู่ภายใต้หลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงนั้นอันดับแรกคือคนเราจะต้องเตรียม คนให้ไปสู่ศตวรรษที่ 21 ให้ได้ให้คนไทยเป็นพลเมืองที่มีความสมบูรณ์คือมีทั้ง Head, Hand, Health และ Heart เป็นคนไทยที่มีความสมบูรณ์ที่มีความรู้คู่คุณธรรมอยู่ในบริบท Global-Thai ไม่ใช่ Thai-Thai คือสามารถมีความเป็นไทยแต่มีศักดิ์ศรีอยู่ในโลกมนุษย์ร่วมกับประชาคมโลกได้พร้อมกันนั้นต้องไม่ใช่ Analog-Thai ต้องเป็น Digital-Thai เพื่อปรับตัวเข้ากับโลกยุคใหม่ การเตรียมคนไทยสู่ศตวรรษที่ 21 จึงเป็นจุดเริ่มต้นที่สำคัญที่สุดในการที่จะนำพาประเทศเปลี่ยนผ่านไปสู่ประเทศไทย |
เว็บไซต์เศรษฐกิจพอเพียง |